สวนของเรามีจุดเริ่มต้นมาจากความฝันเล็ก ๆ ว่าอยากปลูกผลไม้ที่มีประโยชน์ และปลอดภัยให้พ่อกับแม่ไว้รับประทาน เมื่อท่านอายุมากขึ้น หาผลไม้ให้ลูก ๆ รับประทาน เพราะลูก ๆ ทุกคนรับประทานอาหารยาก จึงทำให้ตัวเล็กกว่าเพื่อน ๆ มาก จึงหาข้อมูลจากที่ต่าง ๆ เช่น คนที่ทำสวนผลไม้ ข้อมูลวิจัย ข้อมูลทางโภชนาของผลไม้ชนิดต่าง ๆ จนได้เจอผลไม้ที่ตรงใจที่สุด ทั้งมีคุณประโยชน์สูง และรสชาติที่อร่อย หวานฉ่ำ ละมุนทานง่าย นั่นคือ มะเดื่อฝรั่ง (Fig) และยังทำให้ทราบว่าผลไม้ที่ชื่อมะเดื่อฝรั่ง (Fig) นี้เป็นผลไม้ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในรัชกาลที่ 9 ทรงโปรดมาก ๆ และพยายามส่งเสริมให้มีการปลูกพืชชนิดนี้มานานมากแล้ว
ในช่วงแรกของการศึกษา และเข้ามาสู่วงการมะเดื่อฝรั่ง ในปีพ.ศ. 2558 ก็คงเหมือนกับคนอื่นทั่ว ๆ ไป ที่เข้ามาสู่วงการ มะเดื่อฝรั่ง (Fig) คือ พยายามสะสมสายพันธุ์เพื่อหวังผลทางการค้าด้านกิ่งพันธุ์ โดยที่ 90% ของสายพันธุ์ที่ได้สะสมมายังไม่เคยได้ชิมรสชาติของผลเลย โดยได้รับข้อมูลจากผู้จำหน่ายสายพันธุ์ว่า อร่อยมาก อร่อยสุด ๆ ไส้ในสีสวยมาก หลังจากผ่านช่วงสะสมสายพันธุ์ ได้ร่วมกว่า 100 สายพันธุ์แล้ว เราจึงเริ่มกลับมาดูแลต้นพันธุ์ เพื่อให้รู้ว่าแต่ละสายพันธุ์นั้นอร่อยตรงตามที่ผู้ขายโฆษณาไว้หรือเปล่า โดยต้นพันธุ์ทั้งหมดถูกปลูกไว้กลางแจ้ง
ในช่วงที่ดูแลต้นเพื่อให้ติดลูกนี้ ทำให้รู้ว่ามะเดื่อฝรั่ง (Fig) เป็นต้นไม้ที่ต้องดูแลเอาใจใส่มาก ๆ เพื่อให้ได้ทานผล เนื่องจากต้นมะเดื่อฝรั่ง (Fig) เป็นพืชตายง่ายมากในช่วงฤดูฝน รวมถึงรสชาติผลนั้นไม่สามารถทำให้อร่อยใกล้เคียงกันได้เลยในทุกฤดู เนื่องจากมีปัจจัยจากสภาพอากาศมาเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้รสชาติเปลี่ยนในทุก ๆ ฤดู ตลอดเวลา 1 ปี เราได้พยายามหาชิมผลมะเดื่อฝรั่ง (Fig) ตามสวนต่างๆ ที่สามารถไปได้ แต่ก็ไม่สามารถหาผลสดที่อร่อย และประทับใจได้เลย ไม่ว่าจะสายพันธุ์ดังแค่ไหนก็ตาม จนทำให้รู้สึกว่ามะเดื่อฝรั่ง (Fig) คงไม่ใช่ผลไม้ที่เราตามหาอีกต่อไป เราจึงเลิกเก็บสะสมสายพันธุ์ และทำแค่ดูแลต้นพันธุ์เท่าที่เหลืออยู่เท่านั้น
และแล้วเรื่องราวของเรากับมะเดื่อฝรั่ง (Fig) ที่เหมือนจะถึงทางตัน กลับมีบางอย่างที่นำเรากลับมาสู่วงการมะเดื่อฝรั่งอีกครั้งด้วยเหตุผลเดิม คือ หาผลไม้ที่แคลเซียมสูง และไฟเบอร์สูง ทานง่าย เพื่อให้พ่อกับแม่ และลูก ๆ ได้ทาน เนื่องจากเหตุผลทางด้านสุขภาพของพ่อแม่ และลูก ๆ ของเรา ทำให้เรากลับมาหามะเดื่อฝรั่ง (Fig) อีกครั้ง และในการตามหาครั้งนี้สิ่งที่เราได้เจอต่างจากรอบแรกอย่างสิ้นเชิง เพราะเราได้พบสิ่งที่เราตามหามาตลอดสามปี ซึ่งไม่น่าเชื่อว่ามันอยู่ใกล้ตัวมาก เพราะสวนมะเดื่อฝรั่ง (Fig) สวนนี้อยู่ใกล้เรามาก ซึ่งความรู้สึกแรกที่ได้ชิมผลมะเดื่อของที่สวนนี้ ทำให้รู้ว่าสิ่งที่ตามหามาตลอดอยู่ตรงหน้าเราแล้ว ทั้งสายพันธุ์ รสชาติ การปลูกและการดูแลที่ดี ทำให้สามารถดึงศักยภาพของสายพันธุ์ออกมาได้อย่างดี ทั้งรสชาติ ความดก และความนิ่งของผลผลิต โดยสวนนี้ทำการปลูกในโรงเรือน และให้น้ำ ด้วยปุ๋ยไฮโดรโปรนิค ทำให้สามารถควบคุมรสชาติได้ใกล้เคียงกันตลอดทั้งปีไม่ว่าฤดูการใด และยังช่วยลด ช่วยควบคุมโรค แมลงและวัชพืชได้มาก ทำให้สามารถปลูกผลไม้ที่ไม่ต้องใช้สารเคมีกำจัดแมลงศัตรูพืช และวัชพืช ซึ่งสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ ตรงกับที่เราตามหา และทำให้เรามองเห็นโอกาสในด้านธุรกิจ คิดว่าเราสามารถต่อยอดการทำผลออกสู่ตลาดสุขภาพได้ และยังได้แบ่งปันสิ่งดี ๆ คือ ผลไม้ที่ดีมีคุณภาพ มีคุณประโยชน์สูง และมีความปลอดภัยต่อผู้บริโภค ให้เพื่อน ๆ คนไทย ได้ทานกัน ถือเป็นการตอบแทนบุญคุณของแผ่นดินเกิด และพ่อหลวงของเราด้วย และเราได้ตั้งปณิธานในการทำสวนของเราไว้ว่า “อร่อยและสุขภาพดีหาได้ที่ เดอะ ฟิกเนเจอร์ (The FIGnature)”, “Premium Quality for Good Health” และเพื่อน ๆ ทุกคนสามารถมั่นใจได้เลยว่า ผลไม้ที่สวนของเรามีความปลอดภัยสูง เนื่องจากเราปลูกไว้ให้คนที่เรารักทาน เราจึงดูแลอย่างดี และพร้อมที่จะส่งมอบสิ่งดี ๆ นี้ แก่เพื่อน ๆ ทุกคนด้วยเช่นกัน
และแล้วเรื่องราวของเรากับมะเดื่อฝรั่ง (Fig) ที่เหมือนจะถึงทางตัน กลับมีบางอย่างที่นำเรากลับมาสู่วงการมะเดื่อฝรั่งอีกครั้งด้วยเหตุผลเดิม คือ หาผลไม้ที่แคลเซียมสูง และไฟเบอร์สูง ทานง่าย เพื่อให้พ่อกับแม่ และลูก ๆ ได้ทาน เนื่องจากเหตุผลทางด้านสุขภาพของพ่อแม่ และลูก ๆ ของเรา ทำให้เรากลับมาหามะเดื่อฝรั่ง (Fig) อีกครั้ง และในการตามหาครั้งนี้สิ่งที่เราได้เจอต่างจากรอบแรกอย่างสิ้นเชิง เพราะเราได้พบสิ่งที่เราตามหามาตลอดสามปี ซึ่งไม่น่าเชื่อว่ามันอยู่ใกล้ตัวมาก เพราะสวนมะเดื่อฝรั่ง (Fig) สวนนี้อยู่ใกล้เรามาก ซึ่งความรู้สึกแรกที่ได้ชิมผลมะเดื่อของที่สวนนี้ ทำให้รู้ว่าสิ่งที่ตามหามาตลอดอยู่ตรงหน้าเราแล้ว ทั้งสายพันธุ์ รสชาติ การปลูกและการดูแลที่ดี ทำให้สามารถดึงศักยภาพของสายพันธุ์ออกมาได้อย่างดี ทั้งรสชาติ ความดก และความนิ่งของผลผลิต โดยสวนนี้ทำการปลูกในโรงเรือน และให้น้ำ ด้วยปุ๋ยไฮโดรโปรนิค ทำให้สามารถควบคุมรสชาติได้ใกล้เคียงกันตลอดทั้งปีไม่ว่าฤดูการใด และยังช่วยลด ช่วยควบคุมโรค แมลงและวัชพืชได้มาก ทำให้สามารถปลูกผลไม้ที่ไม่ต้องใช้สารเคมีกำจัดแมลงศัตรูพืช และวัชพืช ซึ่งสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ ตรงกับที่เราตามหา และทำให้เรามองเห็นโอกาสในด้านธุรกิจ คิดว่าเราสามารถต่อยอดการทำผลออกสู่ตลาดสุขภาพได้ และยังได้แบ่งปันสิ่งดี ๆ คือ ผลไม้ที่ดีมีคุณภาพ มีคุณประโยชน์สูง และมีความปลอดภัยต่อผู้บริโภค ให้เพื่อน ๆ คนไทย ได้ทานกัน ถือเป็นการตอบแทนบุญคุณของแผ่นดินเกิด และพ่อหลวงของเราด้วย และเราได้ตั้งปณิธานในการทำสวนของเราไว้ว่า “อร่อยและสุขภาพดีหาได้ที่ เดอะ ฟิกเนเจอร์ (The FIGnature)”, “Premium Quality for Good Health” และเพื่อน ๆ ทุกคนสามารถมั่นใจได้เลยว่า ผลไม้ที่สวนของเรามีความปลอดภัยสูง เนื่องจากเราปลูกไว้ให้คนที่เรารักทาน เราจึงดูแลอย่างดี และพร้อมที่จะส่งมอบสิ่งดี ๆ นี้ แก่เพื่อน ๆ ทุกคนด้วยเช่นกัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น